ทำไมถึงเป็น เล็บขบ

เล็บขบ เป็นอาการที่ด้านในของเล็บเท้าที่ยาวงอกเข้าไปในเนื้ออ่อน ทำให้เกิดความเจ็บปวด บวมแดง หากมีอาการรุนแรงอาจเกิดหนองสะสมอยู่ภายใน ปล่อยทิ้งเอาไว้นานๆ อาจจะเกิดการติดเชื้อราได้ ในทางกลับกัน หากคนที่เป็นเชื้อราที่เล็บอยู่แล้ว ก็สามารถเป็นเล็บขบได้เช่นกัน หากคุณกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้ เรามีคลินิกดีๆ มาแนะนำคุณ นั้นก็คือ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” ที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังโดยเฉพาะคอยดูแลให้คำปรึกษากับคุณ นำทีมโดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ มีประสบการณ์ในวงการการรักษาเฉพาะทางโรคผิวหนังมามากกว่า 15 ปี

ประสบการณ์การทำงาน

• อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
• อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
• แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
• แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

• Hair Restoration Training, Korea (2015)
• Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
• Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
• Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
• Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
• Nail surgery training
• Laser expert training
• Hair expert training
• Boton university usa

ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้เลยว่า ปัญหาของคุณจะหมดไปอย่างแน่นอน และหายขาดได้ไม่ต้องทนเจ็บปวดกับปัญหา

• เล็บขบ
• เล็บอักเสบ
• เล็บติดเชื้อรา

วันนี้เราจะพาคุณไปไขข้อสงสัยของเจ้า “เล็บขบ” กันว่าเป็นอย่างไร รักษาได้ไหม ไปดูกันเลยว่าคุณควรที่จะดูแลรักษาเล็บของคุณเมื่อเจอปัญหา เล็บขบนี้ได้อย่างไร

ปรึกษาปัญหา เล็บขบ คลิกที่นี่

5 สาเหตุ ที่ทำให้เกิดเล็บขบ

เล็บขบ เกิดจากสาเหตุอะไร ใคร ๆ ก็รู้ใช่ไหมว่า “เล็บ” มีหน้าที่ป้องกันอันตรายให้นิ้ว แต่ถ้าเกิดโรคนั้นกินเข้าไปถึงผิวหนังแล้วล่ะก็ “เล็บ” ก็สร้างความปวดร้าวให้เจ้าของเล็บสุด ๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะ “เล็บขบ” (Unguis Incarnatus) โรคเล็บที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิด “เล็บขบ” ได้ก็คือ

1.  การใส่รองเท้าที่บีบมากเกินไป

เพราะจะทำให้เนื้อที่อยู่ด้านข้างของเล็บถูกบีบเข้ามา เล็บก็เลยไปกดเนื้อด้านข้าง เมื่อเล็บงอกมันก็จะงอกลึกลงไปในเนื้อ ทำให้รู้สึกเจ็บปวด นอกจากนี้ การใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป ปลายเท้าแหลมเกินไป ก็ทำให้เท้าถูกบีบจนเล็บงอกตามปกติไม่ได้ ต้องกินเข้าไปในเนื้อ

2.  การตัดเล็บไม่ถูกวิธี

หลายคนตัดเล็บด้านข้างเป็นมุมแหลมชิดเนื้อ หรือลึกเกินไปนั่นเอง ทำให้เล็บงอกใหม่ไปทิ่มที่ซอกเล็บ จนเกิดแผลและมีอาการปวดตามมา หรือบางคนชอบแต่งเล็บให้โค้งเข้าในซอกเล็บมากเกินไป และชอบแคะ ขูด งัดซอกเล็บบ่อย ๆ

3.  การติดเชื้อราที่เล็บ

4.  อุบัติเหตุ

เช่น ปลายนิ้วเท้าชอบไปชนอะไรบ่อย ๆ ทำให้เล็บฉีกขาดแทงเข้าไปในซอกเล็บได้ หรือการเล่นกีฬา เช่น เทนนิส แบดมินตัน ฟุตบอล บาสเกตบอล ซึ่งทำให้กระดูกนิ้วทำงานหนัก

5.  การมีเล็บเท้าที่ผิดปกติ

กว้างกว่าปกติ หรือเกิดจากการที่นิ้วเท้ามาซ้อนเกย หรือเบียดกัน

ติดต่อสอบถาม รักษาเล็บขบ คลิกที่นี่

เล็บขบ อาการร้ายแรงขนาดไหน

ในคนที่เพิ่งเป็น “เล็บขบ” ก็อาจมีอาการแค่บวมแดงบริเวณซอกเล็บ ถ้าไปสัมผัสถูกจะรู้สึกเจ็บ แต่หากติดเชื้อมากขึ้น จะรู้สึกปวดแม้ไม่ได้สัมผัส และมีหนองไหลออกมาจากขอบเล็บ บางคนปวดทรมานจนไข้ขึ้น ใส่รองเท้าเดินไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นถึงขั้นนี้ ต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาก่อนจะติดเชื้อมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเอดส์ หรือเส้นเลือดไปเลี้ยงที่เท้าตีบ หากเป็นเล็บขบ แนะนำให้ไปพบแพทย์แต่เนิ่น ๆ เลย แม้อาการจะยังไม่มาก เพราะโรคที่คุณเป็นอยู่อาจทำให้เล็บขบมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานที่แผลจะหายช้า บางรายอาจมีอาการติดเชื้อจนลึกไปถึงกระดูกได้เลย

วิธีรักษาเล็บขบ โดยแพทย์เฉพาะทาง

หากคุณต้องการให้เล็บขบหายขาด หรือในรายที่เป็นมาก ๆ เช่น นิ้วบวมมาก มีหนองไหล เกิดการติดเชื้อ ก็ต้องไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์ก็จะให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแบบทา หรือแบบรับประทานมาให้ แต่ถ้าใครเป็นหนัก คือ นิ้วโป้งบวมแดงมาก ปวดมาก หนองไหลมาก หรือมีก้อนเนื้อบริเวณข้างเล็บหนาตัวขึ้น แพทย์ก็จะช่วยผ่าตัดเล็บให้

“การผ่าตัดเล็บ” ฟังดูแล้วน่ากลัวใช่ไหม แต่จริง ๆ แพทย์ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic”

• จะผ่าตัดเล็บเฉพาะส่วนด้านข้างที่ขบเท่านั้น
• โดยจะฉีดยาชาให้ก่อน เพื่อที่คนไข้จะได้ไม่รู้สึกเจ็บ
• จากนั้นก็จะผ่าตัดเล็บเข้าไปจนถึงโคนเล็บ
• ใช้คีมคีบเล็บส่วนที่ขบออกมา
• หากมีหนอง แพทย์ก็จะเอาหนองออกมาด้วย
• แล้วทำความสะอาดให้
• พร้อมกับจ่ายยาปฏิชีวนะให้ทาน

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว แต่พอหมดฤทธิ์ยาชาแล้วอาจจะรู้สึกปวดนิดหน่อย แต่รับรองว่าไม่เจ็บปวดเท่าตอนที่ถูกเล็บขบกดลงไปในเนื้ออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่าตัดเล็บแล้ว คนไข้ต้องพันแผลเอาไว้ และทายาฆ่าเชื้อจนแผลหายสนิท ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง และพยายามอย่าให้แผลเปียก ซึ่งปกติแผลจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ รับรองเลยว่าปัญหาเล็บขบของคุณจะหายขาด ไม่กลับมาเป็นอีกอย่างแน่นอน

“Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” เป็นคลินิกที่คุณ กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และดารานักแสดง ต่างให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการกับทาง “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” หากคุณสะดวกหรือใกล้ที่สาขาไหนคุณสามารถเข้าไปปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทางคลินิกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงและผิวที่สวยสดใสอยู่เสมอ

แอดไลน์ปรึกษาอาการ เล็บขบ คลิกที่นี่