“เล็บขบ” เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก ของผู้ป่วยเบาหวาน

“เล็บขบ” เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก ของผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เวลาเป็นแผล จะหายได้ยาก บางครั้งแผลเล็กน้อยอาจนำไปสู่บาดแผลใหญ่ได้ การมีแผลหรือเล็บขบที่เท้าเองก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ง่ายของผู้ป่วยเบาหวาน หากดูแลเท้าไม่ดี ตัดเล็บที่ไม่ถูกวิธีอาจจะนำไปสู่การเกิดเล็บขบได้ ในบางรายบาดแผลเล็บขบสามารถรุกรานจนต้องตัดนิ้วหรือตัดเท้า การดูแลและศึกษาความรู้เรื่องการตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน

ทำความรู้จัก “เบาหวาน” แชมป์โรคประจำตัวในประเทศไทย

โรคเบาหวานมักมีอาการที่ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของผู้ป่วยเปลี่ยนไป โดยเริ่มต้นร่างเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และร่างกายใช้น้ำตาลไม่ได้และโรคนี้เป็นได้ง่ายโดยจะมีทั้งกรรมพันธุ์และปัจจัยภายนอก เช่น น้ำตาล หากเราไม่ควรคุมการบริโภคน้ำตาลสามารถทำให้เราเป็นเบาหวานได้ โดยเมื่อเป็นและจะมีอาการที่ส่งผลมากมายตามมา

  • ปัสสาวะบ่อย
  • กระหายน้ำ
  • ปากคอแห้ง
  • แผลหายยาก

ดังนั้น การเป็นเล็บขบของผู้ป่วยเบาหวาน  จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จำเป็นต้องรีบรักษา เพื่อมิให้แผลนั้นลุกลามติดเชื้อ และจำเป็นต้องรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเล็บและผิวหนัง  เพื่อให้การรักษาเล็บขบที่สะอาด และปลอดภัย ให้ผู้ป่วยเบาหวานหายใจบาดแผลเล็บขบอย่างเร็วไว

เล็บขบ” เกี่ยวข้องกับเบาหวานได้อย่างไร ?

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เวลาเป็นแผลจะหายได้ยากบางครั้งแผลเล็กน้อยอาจนำไปสู่บาดแผลใหญ่ได้ และอาจนำไปสู่เรื่องร้ายแรง ผู้ป่วยเบาหวานบางรายมีอาการมือบาว เท้าบวม อาจจะทำให้เกิดเล็บขบได้  โดยถ้าหากผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นเล็บขบแล้ว อาจจะรุณแรงถึงขั้นตัดนิ้วหรือตัดขา  เราจึงมาแนะนำการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อป้องกันการเกิดอาการเล็บขบ ดังนี้

  • เลือกใส่รองเท้าที่นุ่มที่สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  • สังเกตเท้าอย่างสม่ำเสมอว่ามีแผล เล็บขบ หรือกำลังจะขบหรือไม่
  • เลือกใส่ถุงเท้าที่ไม่รัดเท้ามากเกินไป สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ดังนั้น เราจึงควรดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ให้เกิดเล็บขบ  หรือถ้าหากผู้ป่วยเบาหวานเป็นเล็บขบแล้ว ควรรีบเข้ารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังและเล็บ เพื่อให้การรักษาเล็บขบที่สะอาด และปลอดภัย ให้ผู้ป่วยเบาหวานหายใจบาดแผลเล็บขบอย่างเร็วไว

ปัจจัยที่ทำให้โรคเบาหวานทวีความรุนแรงขึ้น มาจากเล็บขบ จริงหรือไม่ ?

ปัจจัยที่ทำให้โรคเบาหวานทวีความรุนแรงขึ้น มาจากเล็บขบ จริงหรือไม่  เราขอตอบว่า จริง โดยขอแบ่งเป็น 2 ปัจจัยดังนี้

  • ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมักจะมีไขมันที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เกาะอยู่ตามเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบแข็ง และเกิดการอุดตัน ส่งผลให้แผลหายยาก เพราะไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง
  • ระบบประสาท จะมีอาการชาเท้า มีความสามารถในการรับความรู้สึกได้น้อยลง ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดบาดแผล แม้จะเป็นเล็บขบก็ตาม เพราะฉะนั้นกว่าจะรู้สึกตัวว่าเป็นแผล อาจพบว่ามีการเน่าหรืออาจจะติดเชื้อไปแล้ว ในบางรายอาจจะรุนแรงถึงขั้นที่ต้องตัดเท้า

ดังนั้น เราจึงควรสังเกตอาการผู้ป่วยเบาหวานให้ดี มิให้เกิดบาดแผลต่างๆบริเวณร่างกายโดยเฉพาะเล็บขบ แต่ถ้าหากเกิดเล็บขบในผู้ป่วยเบาหวานขึ้นแล้ว แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเล็บและผิวหนัง เพื่อได้รับการรักษาที่ปลอดภัย สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

 

วิธีดูแลรักษาเมื่อเป็นเล็บขบ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ในผู้ป่วยเบาหวานเนื่องจากเส้นประสาทและเส้นเลือดที่เสื่อมสภาพไปแล้ว จากการเป็นเบาหวานเรื้อรังนั้นการฟื้นฟูให้กลับมาดีดังเดิมนั้นทำได้ยาก  แนะนำว่าควรเข้ามาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เนื่องจากการรักษาด้วยตนเองนั้น อาจนำไปสู่อาการที่ร้ายแรงขึ้น โดยการรักษาเล็บขบกับทางเรา  ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการแพทย์หลากหลายรูปแบบและเรามีแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังและเล็บโดยเฉพาะ ที่มากประสบกานณ์จาก

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง

ด้วยประสบการณ์ที่มีมามากกว่า 15 ปี ของ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ ตจแพทย์ รอให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกเรื่อง ปัญหาที่เกี่ยวกับผิวและเล็บของคุณ ด้วยความยินดี และสามารถติดต่อเราได้ทั้ง 2 ช่องทาง

 

Seven Plus Clinic (ศูนย์เลเซอร์ผิวหนัง เซเว่นพลัส) โทร. 02-0055552 มือถือ 094-924-2294

FB: sevenplusclinic / LineID: @svenplusclinic

 

D’Secret Clinic (คลินิกผิวหนัง ผม เล็บ) โทร. 02-9102955 มือถือ 091-462-9154

FB: Dsecret clinic / LineID: @dsecretclinic

 

ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa
จะเห็นได้ว่าผู้ที่เคยมาใช้บริการ รักษาเล็บขบ กับคลีนิก เซเว่นพลัส (SEVEN PLUS CLINIC) มีความพึงพอใจเป็นอย่างสูง ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่ไว้วางใจ และเลือกให้คลีนิกของเราได้ดูแลในเรื่อง เล็บขบ  และสำหรับท่านไหนที่กำลังหา คลีนิกรักษาเล็บขบ  เลือกเซเว่นพลัส (SEVEN PLUS CLINIC) สิคะ