ลดพฤติกรรมเสี่ยง บ่อเกิดของเล็บขบ 

ต้องบอกก่อนเลยว่าเล็บขบเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็รู้จักและเจ็บปวดกับการนี้แน่ ๆ โดยมีอาการเล็บปวด บวม อักเสบ หรือเป็นหนอง  หลายครั้งสาเหตุมาจากการตัดเล็บผิดวิธี  ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ  ของเล็บขบ และยังสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นการสวมใส่รองเท้าที่แน่นเกินไป หรืออุบัติเหตุ ถ้าเกิดอาการเล็บขบแล้วไม่ดูแลอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่การรักษาซึ่งต้องใช้เวลาดูแลรักษาที่ยาวนานออกไป ดังนั้นขอแนะนำการลดพฤติกรรมเสี่ยง บ่อเกิดของเล็บขบ ลดปัญหากวนใจ

ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับนิ้วเท้า

การระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับนิ้วเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้

1. การเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสม

เลือกซื้อรองเท้าที่มีขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมกับเท้าของคุณ รองเท้าควรมีพื้นที่หน้าอกแขนกว้างพอที่จะให้นิ้วเท้าสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก และควรมีการยึดเข้ากับเท้าอย่างมั่นคง เพื่อป้องกันการสะดุดหรือลื่นไหลบนพื้นที่เรียบ

2. การตรวจสอบรองเท้าอย่างสม่ำเสมอ

ตรวจสอบรองเท้าเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์และความเหมาะสมของมัน ให้เช็คว่าไม่มีส่วนที่ชำรุดหรือส่วนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น สายรัดหรือหุ้มโดยรอบ

3. การรักษาความสะอาด

รักษารองเท้าของคุณให้สะอาดอยู่เสมอโดยการล้างหรือทำความสะอาดหากมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งสกปรกติดอยู่

4. การใช้ถุงเท้า

ใช้ถุงเท้าเพื่อป้องกันการเกิดแผลหรือนิ้วเท้าขาดเป็นที่เกิดจากการสัมผัสกับรองเท้าโดยตรง

5. การระมัดระวังขณะเดิน

เดินอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะเมื่อเดินบนพื้นผิวเสื่อมโทรม หรือพื้นที่ที่มีการตกแต่งผิวของพื้นต่างๆ

ติดต่อสอบถาม รักษาเล็บขบ คลิกที่นี่

6. การดูแลผิวหนัง

รักษาผิวหนังของนิ้วเท้าอย่างเหมาะสมโดยการทำความสะอาดและใช้ครีมบำรุงเพื่อป้องกันการแห้งหรือการแตกหรือเกิดแผลในผิวหนัง

7. การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

ตรวจสอบนิ้วเท้าและรอบๆ มันอย่างสม่ำเสมอ หากมีการเกิดแผลหรือบวม ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

ซึ่งบางครั้งการรักษาเล็บขบอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น การถอดเล็บ ทำให้เราได้รับความเจ็บปวดเยอะและใช้เวลานาน  แต่ด้วยเทคโนโลยีของ  “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic ” เป็นการรักษาด้วยเทคนิคของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังและเล็บ  ทำให้มีเทคนิคพิเศษของทางคลีนิคที่รักษาเจ็บน้อยกว่า ระยะเวลารักษาสั้นกว่า  เล็บขบหายขาด โดยไม่ต้องเจ็บตอนถอดเล็บ

 รู้จักกับการตัดเล็บเท้าให้ถูกวิธี

การตัดเล็บเท้าให้ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือปัญหาเกี่ยวกับเล็บ ดังนี้

1. เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

ใช้คีมตัดเล็บที่มีคมและสะอาด เลือกขนาดที่เหมาะสมกับเล็บของคุณ

2. การล้างเท้าและเล็บ

ก่อนการตัดเล็บ ให้ล้างเท้าและเล็บด้วยน้ำอุ่นและสบู่ เพื่อล้างสารสกปรกและแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่

3. การตัดเล็บในทิศทางที่เหมาะสม

ตัดเล็บในทิศทางที่ตรงข้ามกับทิศทางของการเจริญเติบโตของเล็บ เพื่อป้องกันการสัมผัสเล็บที่ส่วนหน้าของรอยสีดำที่อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือตำหนิ

4. การตัดเล็บในทิศทางที่เหมาะสม

ให้ตัดเล็บในทิศทางที่เริ่มต้นจากด้านข้าง และไม่ควรตัดเล็บให้สั้นเกินไป เพียงแค่ตัดส่วนของเล็บที่ยื่นออกมานิดหน่อยเท่านั้น

5. การเลี่ยงการตัดมุม

ควรเลี่ยงการตัดมุมของเล็บเนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลหรืออาการบาดเจ็บในรอยตัด

6. การรักษาความสะอาด

หลังจากการตัดเล็บเสร็จสิ้น ให้ล้างเท้าและเล็บอีกครั้ง และใช้สารฆ่าเชื้อที่เหมาะสมถ้ามีความจำเป็น

7. การดูแลแผนผังเล็บ

ควรให้ความสำคัญกับการดูแลแผนผังเล็บของคุณ ไม่ควรตัดเล็บเกินเส้นแผนผังของเล็บ และควรเลี่ยงการลอกหรือทำลายชั้นเล็บส่วนที่มีความแข็งแรงในรอบของเล็บ

8. การรักษาความชุ่มชื้น

ควรใช้ครีมบำรุงเล็บหรือน้ำมันบำรุงเล็บเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการแตกหรือแห้งของเล็บ

9. การดูแลเล็บที่มีปัญหา

หากมีปัญหาเกี่ยวกับเล็บ เช่น เล็บหัก แผลใต้เล็บ หรืออาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักเล็บเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

หากตัดเล็บให้ถูกวิธีแล้ว ยังเกิดเล็บขบ แนะนำให้รับคำปรึกษาและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังและเล็บ  เพื่อให้คำแนะนำและรักษาเล็บขบ ที่สะอาดปลอดภัยและเจ็บน้อยกว่า

ใส่รองเท้าคับเกินไป คือต้นตอของการเกิดเล็บขบ

การใส่รองเท้าที่คับเกินไปอาจเป็นต้นตอของการเกิดเล็บขบหรือปัญหาเกี่ยวกับเท้า ดังนั้น ควรระมัดระวังและปรับปรุงวิธีการใส่รองเท้าดังนี้

1. ควบคุมการใส่รองเท้า

หากมีการใส่รองเท้าที่คับเกิน เช็คว่ามีที่หรือโอกาสใดที่สามารถปรับแก้ได้หรือไม่ เช่น การปรับสายรัดหรือการปรับขนาดของรองเท้า

2. เลือกซื้อรองเท้าที่มีวัสดุที่นุ่มนวล

รองเท้าที่มีวัสดุที่นุ่มนวลและยืดหยุ่นสามารถป้องกันการกดเท้าหรือเล็บขบได้

3. เลือกซื้อรองเท้าที่พอดี

ให้เลือกรองเท้าที่มีขนาดที่เหมาะสมกับเท้าของคุณ ควรทดสอบการใส่รองเท้าให้แน่ใจว่าไม่คับเกินไปหรือหลวมเกินไป

4. พักผ่อนเท้า

ให้ใส่รองเท้าที่ให้พื้นที่สัมผัสที่แตกต่างกัน เช่น ใส่รองเท้าที่มีก้นแบนในช่วงเวลาที่ไม่ต้องการใส่รองเท้าส้นสูง

5. การทำแผนที่เท้า

ตรวจสอบรอยเท้าหรือแผนที่เท้าเพื่อทำให้แน่ใจว่ารองเท้าที่คุณใส่ไม่กดเล็บหรือทำให้เกิดความกดของเท้า

6. การใช้ห้องร้อน

หากมีการทดลองใส่รองเท้าที่มีรูปแบบหรือวัสดุใหม่ ให้ทดลองใส่ในห้องร้อนเพื่อทำให้วัสดุที่นำมาใช้รองรับรูปร่างเท้า

การใส่รองเท้าที่ไม่คับเกินไปเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเล็บขบหรือปัญหาเกี่ยวกับเท้า ควรให้ความสำคัญและระมัดระวังในการเลือกซื้อและการใส่รองเท้าตลอดเวลา

หากมีคำถาม หรือต้องการขอคำปรึกษากับทางเรา “ Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic ” โดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ ผู้มีประสบกานณ์ อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี  กำรันตี โดยคุณ กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ (ดารานักแสดง) ที่ให้ความไว้วางใจ เลือกขอคำปรึกษาและรับบริการเรื่องผิวและเล็บกับเรา “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” หากคุณสะดวกสามารถเข้าไปปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตามที่อยู่ทั้ง 2 แห่ง

สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและติดตามโปรโมชั่นราคาได้ทางช่องทางต่อไปนี้

Seven Plus Clinic

• เปิดบริการทุกวัน 00 – 18.00 น.
• facebook : SevenPlusClinic
• Messenger : SevenPlusClinic
• Line : @sevenplusclinic
• Phone : 02-0055552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
• Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

D’Secret Clinic

• facebook : Dsecretclinic
• Messenger : Dsecretclinic
• Line : @dsecretclinic
• Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
• Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)