เล็บขบรักษาอย่างไร?
ปัญหาเล็บขบสามารถสร้างความรู้สึกเจ็บปวดได้มากพอสมควร เพราะเท้าเป็นศูนย์รวมเส้นประสาทจำนวนมากของร่างกาย ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาเล็บขบย่อมสร้างความรู้สึกเจ็บปวดที่กวนใจได้มาก ทั้งยังอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการติดเชื้อจากแผลเล็บขบที่ลุกลามไปสู่ปัญหาเนื้อรอบเล็บเสียหายได้ ซึ่งยุคนี้มีการรักษาเล็บขบที่ช่วยทำให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างหายขาด พร้อมทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้อีกต่อไป
การรักษาเล็บขบมีวิธีใดบ้าง
การรักษาเล็บขบจะมีด้วยกันหลายวิธี แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะมี 3 วิธีที่ให้ผลดี แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของประสิทธิภาพการรักษาและการหายขาด โดยละเอียดของวิธีการรักษาเล็บขบในแต่ละแบบจะมีดังนี้
1.การถอดเล็บ
การรักษาเล็บขบด้วยการถอดเล็บออกจะเป็นตัวช่วยทำให้เล็บที่ขึ้นมาใหม่มีรูปทรงที่เป็นปกติมากยิ่งขึ้น โดยสามารถรักษาได้ทั้งผู้ที่มีปัญหาเล็บขบ, เนื้อเยื่อฐานเล็บมีปัญหา และเล็บฉีกขาดจากอุบัติเหตุ เน้นใช้การงอกขึ้นใหม่เพื่อให้เกิดกระบวนการทางธรรมชาติที่รูปทรงของเล็บจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ซึ่งการถอดเล็บออกจะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์จนกว่าจะมีเล็บใหม่งอกขึ้นมาปกคลุมเนื้อและกลายเป็นเล็บแข็งตามปกติ ส่วนการถอดเล็บจะต้องทำจากแพทย์ที่มีความชำนาญโดยเฉพาะ เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อและสามารถทำเล็บที่งอกขึ้นมาใหม่มีคุณภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดในขณะที่ถอดเล็บออกแต่อย่างใด
2.การผ่าตัด
วิธีการรักษาเล็บขบด้วยการผ่าตัดจะเป็นการผ่าเพียงบางส่วนที่มีปัญหาเรื่องเล็บขบออกไป พร้อมการตัดแต่งให้เล็บเกิดรูปทรงที่เหมาะสม จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเล็บขบจากการสวมใส่รองเท้าที่บีบแล้วรูปทรงของเล็บอยู่ตลอดเวลา, เล็บที่มีรูปทรงผิดปกติโดยกำเนิด หรือปัญหาที่ส่งต่อทางพันธุกรรม เป็นวิธีที่ช่วยทำให้ปัญหาเล็บขบหายขาดได้เป็นอย่างดี โดยจะเป็นการตัดผิวหนังที่ทำให้เกิดเล็บขบออกไปและตัดเล็บที่มีรูปทรงผิดปกติหรือยาวเกินไปออกด้วย ทั้งยังทำลายรากเล็บที่ก่อให้เกิดปัญหาเล็บขบ ซึ่งในยุคปัจจุบันวิธีการผ่าตัดมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการกลับมาเป็นเล็บขบซ้ำใหม่อีกครั้งได้เป็นอย่างดี ทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้อีกด้วย
3.การดูแลตัวเอง
การดูแลตัวเอง คือ วิธีการรักษาแบบเบื้องต้นของคนที่มีปัญหาเล็บขบ โดยเริ่มต้นจากการนำเท้าของคุณแช่ไว้ภายในน้ำอุ่นประมาณ 10-15 นาทีต่อวัน โดยให้ทำวันละ 1-2 ครั้งไปตลอด 2 สัปดาห์ และเมื่อจะตัดเล็บให้คุณแช่น้ำอุ่นอีกครั้ง จากนั้นให้ทำการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินรอบเล็บออกเล็กน้อยและตัดเล็บในส่วนที่เป็นเล็บขบออก พร้อมการตะไบให้เล็บมีมุมโค้งมน ห้ามตัดเป็นมุมแหลมเด็ดขาด พร้อมใช้ยารักษาแผลแก้อาการอักเสบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งวิธีนี้ถือว่าง่าย เพราะทำได้ด้วยตัวคุณเองที่บ้าน แต่ก็มีสิทธิ์กลับมาเกิดเล็บขบใหม่อีกครั้งได้ทุกเมื่อ
ผ่าตัดหรือถอดเล็บ แบบไหนที่เหมาะต่อการรักษาเล็บขบมากที่สุด
สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาเล็บขบและต้องการวิธีรักษาแบบหายขาด พร้อมการดูแลที่ไม่ต้องยุ่งยากมากจนเกิน ไม่เสี่ยงอันตราย ในขณะที่รักษาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งจะมีอยู่ 2 วิธีที่ได้รับความนิยมจากคนยุคนี้ คือ การผ่าตัดและการถอดเล็บออก จึงทำให้ผู้ที่กำลังศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาเล็บขบอาจจะรู้สึกสับสนว่ารูปแบบใดที่เหมาะสมต่อการรักษาเล็บขบมากที่สุด โดยขอแนะนำทั้งข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 วิธีนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาของคุณ ดังนี้
ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัด
- การผ่าตัดจะช่วยทำให้แผลหายเร็ว
- ลดปัญหาการติดเชื้อได้มาก
- กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ส่งผลเสียใด ๆ
- ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน
- มีโอกาสกลับมาเป็นเล็บขบอีกครั้งได้น้อยมาก คลินิกรักษาด้วยการผ่าตัดบางแห่งการันตีผลที่หายขาดถึง 95 เปอร์เซ็นต์
- วิธีการทันสมัยและผ่าตัดอย่างรวดเร็ว แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดด้วยการตัดรากเล็บที่เป็นปัญหาออก จึงช่วยทำให้เล็บเกิดใหม่มีรูปทรงที่ดีมากขึ้น
- ถ้าเลือกคลินิกไม่ดีและไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เกิดปัญหาลิ่มเลือดในขณะผ่าตัด มีอาการแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อของกระดูกบางส่วนได้
ข้อดีและข้อเสียของการถอดเล็บ
- การถอดเล็บจะช่วยทำให้เล็บที่เกิดใหม่มีรูปทรงปกติมากขึ้น
- ใช้วิธีการทางธรรมชาติ เพื่อการรักษาที่ทำให้เล็บกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
- การถอดเล็บบ่อยครั้งอาจจะทำให้เล็บเกิดใหม่เล็กลงหรือผิดรูปมากกว่าเดิม
- เมื่อถอดเล็บออกบ่อยครั้ง ย่อมทำให้เล็บที่เกิดใหม่อ่อนแอลง จึงทำให้ความแข็งแรงของเล็บน้อยลงตามไปด้วย
- ระหว่างการถอดเล็บออกต้องดูแลรักษาให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ง่ายกว่าปกติ
- ใช้เวลาในการดูแลรักษานานพอสมควร เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงได้เสมอ ถ้าดูแลไม่ดี
เมื่อนำมาเทียบทั้งข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดกับการถอดเล็บ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการผ่าตัดเล็บขบจะให้ข้อดีที่มากกว่า ข้อเสียมีน้อย เพียงแค่คุณเลือกสถานที่รักษาที่สามารถไว้วางใจได้ เป็นแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านและผ่าตัดด้วยตัวแพทย์เองโดยตรง มีประสบการณ์และมีรีวิวการันตีด้วยจะยิ่งดีมาก พร้อมการันตีผลที่จะไม่กลับมาสร้างปัญหาเล็บขบได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากกว่าการถอดเล็บมากพอสมควรเลยทีเดียว
รักษาเล็บขบเซเว่น พลัสคลินิก (Seven Plus Clinic)
ถ้าคุณต้องการแก้ไขปัญหาเล็บขบได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำเซเว่น พลัสคลินิก (Seven Plus Clinic) รักษาเล็บขบโดยตรงจากแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เริ่มก่อตั้งคลินิกมาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2559 ให้คำปรึกษา ดูแล และรักษาแบบครบวงจร ทั้งในด้านของเล็บ ผิวหนัง และผมอย่างครบวงจร เป็นศูนย์เฉพาะที่จะช่วยทำให้คุณแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งในด้านความงาม ความปลอดภัย และปัญหาของโรคเล็บได้แบบเจาะลึก พร้อมทำให้ปัญหาของคุณหมดไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยประสบการณ์จากแพทย์มืออาชีพที่มีอายุงานมายาวนานกว่า 20 ปี
ถามตอบ Q&A เกี่ยวกับศูนย์เล็บ
#ทำไมต้องใช้บริการ ตัดเล็บขบกับเรา
- เราเป็นคลินิกแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ใช้เทคนิคในการผ่านตัดทางการแพทย์มารักษาอาการเล็บขบ โดยแพทย์ผู้เชียวชาญ จากประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
#การตัดเล็บขบ รักษาเล็บกับเราต่างจากที่อื่น อย่างไร
- เราใช้เทคนิคการผ่าตัด มาใช้ในการรักษาเล็บขบ ซึ่งเรากล้ารับประกันได้เลยว่าอาการเล็บขอบของท่านจะไม่กลับมาเป็นอีกในอนาคต
#หลายสิ่งที่คนอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเล็บขบ
- การถอดเล็บไม่ใช้การแก้ไขปัญหาเล็บขบที่ดีที่สุด ซึ่งเราจะใช้วิธีการถอดเล็บเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการถอดเล็บจะทำให้อาการเล็บขบกลับมาเป็นได้อีกในอนาคต
#อยู่ไกล คุ้มไหมกับการเดินทางมารักษา
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเล็บเรื้อรังรักษายังไงก็ไม่หายขาด เราคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการรักษาครั้งต่อไปสำหรับคุณ