โรคเชื้อราที่เล็บคืออะไร
โรคเชื้อราที่เล็บ (onychomycosis) หมายถึง การติดเชื้อราซึ่งรวมถึงราที่เป็นสายรา หรือ เชื้อราในรูปของยีสต์ (ราที่มีลักษณะเป็นเซลล์กลม) ที่เล็บ โดยปกติแล้วเชื้อราที่กล่าวมานี้มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถตรวจพบได้ด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์หรือการเพาะเชื้อรา เป็นต้น ในประเทศไทยชนิดของเชื้อราที่พบบ่อยๆ คือ เชื้อกลากแท้(dermatophytes) เชื้อกลากเทียม (non-dermatophytes) และเกิดจากยีสต์(yeasts) โดยเฉพาะเชื้อแคนดิดา (Candida)
อาการของเชื้อราที่เล็บ
ในระยะแรก อาจไม่สามารถสังเกตได้ถึงอาการป่วยหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเล็บ
ทั้งนี้ ความผิดปกติจะเริ่มแสดงออกมาเมื่อเชื้อราเริ่มขยายตัว โดยเกิดจากขอบเล็บแล้วค่อย ๆ ขยายไปยังกลางเล็บ ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่เล็บมือหรือเล็บเท้า และมักมีเล็บที่ติดเชื้อราประมาณ 1-3 เล็บ โดยผู้ป่วยเชื้อราในเล็บมักจะมีอาการดังนี้
- เล็บเปลี่ยนสี อาจเปลี่ยนเป็นสีดำ สีขาว สีเหลือง หรือสีเขียว
- เล็บหนาขึ้นหรือผิดรูป อาจทำให้ผิวเล็บเสียและขรุขระได้
- มีอาการกดเจ็บที่เล็บ รอบเล็บบวมแดง หรือคันผิวหนังบริเวณเล็บ
- เล็บร่น เนื่องจากแผ่นเล็บแยกตัวออกมาจากฐานเล็บ เกิดโพรงใต้แผ่นเล็บ เกิดขุยหนาใต้เล็บ
5 ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเชื้อราที่เล็บ
การเป็นเชื้อราที่เล็บสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา เหล่านี้อาจทำให้เล็บมีความอ่อนแอต่อการติดเชื้อรามากขึ้น
1. ความชื้น
เชื้อราชอบสภาวะความชื้นและอุณหภูมิอุดมคติในการเจริญเติบโต ความชื้นในรอบแวดล้อมของเล็บสามารถสร้างสภาพที่เหมาะสมให้เชื้อราเจริญเติบโต ดังนั้น สภาวะความชื้นสูงอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อราที่เล็บ
2. การใช้สารเคมี
การใช้สารเคมีที่เข้มข้นในการทาเล็บ เช่น ทาเล็บเจลหรือกาว หรือการนำสารเคมีมาออกเล็บอาจทำให้เล็บแตกหรือบาดแผล ซึ่งเป็นทางเข้าสำหรับเชื้อรา
>> ติดต่อสอบถาม รักษาเชื้อราที่เล็บ คลิกที่นี่
3. การบาดเจ็บ
การบาดเจ็บที่เล็บหรือนิ้วมืออาจทำให้เกิดบาดแผลหรือเปิดทางเข้าให้กับเชื้อรา ทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อรา
4. การใช้รองเท้าและถุงเท้าที่ไม่พอดี
การใช้รองเท้าและถุงเท้าที่ไม่พอดีอาจทำให้เกิดความชื้นและอุณหภูมิสูงในรอบแวดล้อมของเท้า ที่อาจเป็นสภาวะที่เชื้อราชอบ
5. โรคภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
บางกลุ่มคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อรามากขึ้น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถต้านเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การป้องกันการติดเชื้อราในเล็บ ควรทำอย่างไร
การดูแลเล็บให้สวยงามและสุขภาพเป็นสิ่งที่หลายคนรับรู้ แต่นอกจากการดูแลทางเครื่องสำอางและการตัดเล็บให้เรียบร้อยแล้ว ความสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพของเล็บยังคือการป้องกันการติดเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นได้ การติดเชื้อราในเล็บอาจทำให้เล็บเป็นมะเร็งหรือมีปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ ได้ ดังนั้นมาดูวิธีการป้องกันการติดเชื้อราในเล็บกันเลย
1. การรักษาความสะอาด
เริ่มต้นด้วยการรักษาความสะอาดของเล็บให้ดี ควรล้างมืออย่างสม่ำเสมอโดยใช้สบู่และน้ำสะอาดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเล็บมีความสะอาดและไม่มีคราบสกปรกที่เกาะอยู่ที่นิ้วและเล็บเสมอ
2. การตัดเล็บอย่างเหมาะสม
การตัดเล็บให้สั้นเกินไปหรือไม่เหมาะสมอาจทำให้เล็บเรียบแต่ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อรา เนื่องจากเล็บย่อย
และแตกได้ง่ายขึ้น ควรตัดเล็บเป็นระยะๆ และไม่ตัดเล็บสั้นเกินไปเพื่อป้องกันปัญหานี้
3. การไม่ใช้เล็บปลอม
เล็บปลอมหรือเล็บชิ้นต่างๆ ที่ถูกติดบนเล็บธรรมดาอาจเก็บความชื้นและสามารถเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อราได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เล็บปลอมหรือชิ้นเล็บเพิ่มเติมหากไม่จำเป็น
4. การเลือกใช้เครื่องมือสำหรับเล็บ
ในกรณีที่คุณใช้เครื่องมือสำหรับเล็บ เช่น ทิปและคัตเตอร์ เราแนะนำให้ใช้เครื่องมือที่คุณสามารถล้างและทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในเครื่องมือ
5. การใช้ทิปอย่างระมัดระวัง
หากคุณใช้ทิปเพื่อดูแลเล็บ ควรที่จะใช้ทิปที่ถูกสร้างมาอย่างดีและทำความสะอาดทิปโดยสม่ำเสมออย่าใช้ทิปเพื่อแตะเรื่องด้านในของเล็บเนื่องจากอาจทำให้เกิดบาดแผลและเป็นทางเข้าสำหรับเชื้อโรค
6. การรักษาความชื้น
เล็บที่แห้งและแตกง่ายมักทำให้เชื้อราสามารถเข้าทำลายเล็บได้ง่ายขึ้น ควรใช้ครีมบำรุงเล็บเพื่อรักษาความชื้นและความเรียบเนียนของเล็บ
7. การระมัดระวังในการเลือกสีทาเล็บ
สีทาเล็บที่เสื่อมสภาพหรือแตกง่ายอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเล็บ ควรเลือกใช้ทาเล็บที่มีคุณภาพและไม่ทำลายเล็บ
8. การป้องกันการติดเชื้อราสามารถใช้ทางกายภาพ
หากมีการบาดเจ็บบริเวณเล็บหรือนิ้ว ควรรักษาแผลอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการติดเชื้อรา
การดูแลเล็บอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อราในเล็บอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณมีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับเล็บ สามารถปรึกษาได้ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” เราคือ คลินิกที่รับตรวจรักษา โรคเล็บ เล็บขบ ขอบเล็บอักเสบ เชื้อราที่เล็บ ผ่าตัด ถอดเล็บ ครบวงจรเรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังโดยเฉพาะ ให้การรักษาที่ตรงจุดทำการตรวจโดยใช้แล็บต่างประเทศมีความแม่นยำสูงในการวินิจฉัยโรค
นำทีมแพทย์โดยพญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์
ประสบการณ์การทำงาน
- อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ผ่านการศึกษาจาก (Education)
- Hair Restoration Training, Korea (2015)
- Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
- Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
- Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
- Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
- Nail surgery training
- Laser expert training
- Hair expert training
- Boton university usa
สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและติดตามโปรโมชั่นราคาได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Seven Plus Clinic
- เปิดบริการทุกวัน 00 – 18.00 น.
- facebook : SevenPlusClinic
- Messenger : SevenPlusClinic
- Line : @sevenplusclinic
- Phone : 02-0055552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
- Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร
D’Secret Clinic
- facebook : Dsecretclinic
- Messenger : Dsecretclinic
- Line : @dsecretclinic
- Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
- Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)